วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2559

เราเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของหลวงพ่อธัมมชโย

 สืบเนื่องมาจากกระแสข่าวของพระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย) ที่ได้รับการบริจาคทำบุญด้วยเช็คของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นแต่กลับถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐานสมคบกัน, ร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันรับของโจร และท่านขอเลื่อนการไปพบตามหมายเรียกของ DSI เนื่องจากอาพาธต่อมา DSI จึงไปขอให้ศาลออกหมายจับท่านและขอกำลังตำรวจจำนวนมากเตรียมบุกไปจับตัวท่านที่วัดพระธรรมกาย จนกระทั่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานาในหมู่ประชาชนทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยตัดสินไปแล้วว่าหลวงพ่อธัมมชโยมีความผิด ซึ่งไม่เป็นธรรมกับท่านอย่างยิ่ง เพราะคดีนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน ยังไม่มีการตัดสินใด ๆ ดังนั้นตามกฎหมายหลวงพ่อธัมมชโยจึงยังเป็นแค่ผู้ถูกกล่าวหา ไม่ใช่ผู้กระทำผิด

     ขณะนี้เรื่องราวยังไม่สงบลง ดังนั้นในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาจนถึงต้นเดือนมิถุนายน ที่วัดพระธรรมกายจึงมีนักข่าวนับร้อยคนคอยเกาะติดสถานการณ์และนำเสนอข่าวของหลวงพ่อกันไม่หยุดหย่อน

     ท่ามกลางมรสุมที่โหมกระหน่ำเข้ามาลูกแล้วลูกเล่า คณะศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อธัมมชโยก็ไม่รู้สึกหวั่นไหว ยังคงเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของท่าน และมั่นใจว่าอีกไม่นานความจริงจะปรากฏให้สังคมรับรู้

อะไรทำให้บุคคลเหล่านี้ยังคงเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของหลวงพ่อธัมมชโย ?

     การที่คณะศิษย์มีความเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของหลวงพ่อนั้นมิได้เกิดขึ้นลอย ๆ แต่มีสาระสำคัญ ๒ ประการรองรับ คือ ๑. การได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน ๒. การพิสูจน์ด้วยตนเอง

     การได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน

     ปกติการจะวิเคราะห์ วิจัย วิจารณ์ หรือสรุปเรื่องอะไรก็ตาม ถ้าใครมีข้อมูลที่ครบถ้วนและถูกต้องอยู่ในมือ เปอร์เซ็นต์ความแม่นยำในการสรุปหรือตัดสินเรื่องนั้น ๆ จะมีมากกว่าคนที่ได้ข้อมูลไม่ครบหรือไม่ถูกต้องหลายเท่า

     กรณีของหลวงพ่อธัมมชโยก็เช่นกันปัญหาความเข้าใจผิดที่สังคมมีต่อหลวงพ่อส่วนใหญ่มาจากการได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วนและไม่ถูกต้อง ซึ่งประเด็นหลัก ๆ ในขณะนี้ก็คือ

      ๑. ประเด็นการตั้งข้อหาเรื่องเงินบริจาคว่าหลวงพ่อธัมมชโยฟอกเงินและรับของโจร

     เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เงินจำนวนที่เป็นปัญหานี้ ได้รับบริจาคมาอย่างเปิดเผยต่อหน้าสาธารณชน และหลวงพ่อไม่เคยเห็นเช็คเหล่านี้เลย อีกทั้งท่านก็ไม่ทราบด้วยว่าเงินบริจาคเหล่านี้ ผู้บริจาคแต่ละคนได้มาจากไหน และไม่ใช่หน้าที่ของพระที่จะไปตรวจสอบที่มาของเงิน แต่เมื่อมีผู้มาถวายท่านก็ต้องรับด้วยความเคารพในทาน ดังนั้นการตั้งข้อกล่าวหาว่าท่านรับของโจรจึงไม่เป็นความจริง






 หลังจากรับบริจาคมาแล้ว เช็คที่ได้รับบริจาคมาก็นำเข้าบัญชี แล้วนำไปจ่ายเป็นค่าก่อสร้างศาสนสถานและงานพระศาสนาโดยไม่ได้เบิกถอนออกมาเป็นเงินสดแม้แต่บาทเดียว การรับบริจาคและใช้จ่ายเงินจึงมีความชัดเจน ไม่ปรากฏว่ามีการฟอกเงินแต่อย่างใด นอกจากนี้เมื่อสหกรณ์เกิดปัญหา ด้วยความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ที่ได้รับความเดือดร้อน คณะศิษย์วัดพระธรรมกายจึงตั้งกองทุนรวบรวมเงินช่วยเหลือเยียวยาแก่สมาชิกผู้ฝากเงินสหกรณ์ฯ เป็นจำนวน ๑,๐๕๕.๕๖ ล้านบาท ซึ่งถือเป็นกลุ่มเดียวที่ให้ความช่วยเหลือแก่สมาชิกสหกรณ์ฯ

     ขอย้ำอีกครั้งว่า เงินจำนวนนี้เป็นเงินที่คณะศิษย์วัดพระธรรมกายรวบรวมกันมาเพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเสียหายแก่สมาชิกสหกรณ์ฯ ซึ่งสหกรณ์ฯ ได้ทำหนังสือแสดงความขอบคุณมายังคณะศิษย์ และไม่ประสงค์ที่จะดำเนินคดีใด ๆ กับหลวงพ่อทั้งทางแพ่งและทางอาญา


 ๒. ประเด็นที่หลวงพ่อไม่ไปรับทราบข้อกล่าวหาที่ DSI

     การที่หลวงพ่อธัมมชโยไม่ได้ไปรับทราบข้อกล่าวหา เป็นเพราะท่านอาพาธหนักด้วยโรคถึง ๘ โรค และมี ๑ โรคที่ต้องเฝ้าระวังการเกิดภาวะเฉียบพลันด้วยลิ่มเลือดอุดตันอวัยวะสำคัญภายใน และขณะนี้ท่านก็มีอายุถึง ๗๒ปีแล้ว ดังนั้นการเดินทางไปรับข้อกล่าวหาที่ DSI จึงมีความเสี่ยงต่อชีวิตตามความเห็นของคณะแพทย์

     อย่างไรก็ตาม หลวงพ่อยินดีทำตามกระบวนการยุติธรรม โดยยื่นหนังสือขอให้เจ้าหน้าที่เปลี่ยนสถานที่นำข้อกล่าวหาไปให้ท่านรับทราบที่วัด แต่ DSI ยังไม่เชื่อว่าท่านป่วยทั้ง ๆ ที่มีใบรับรองแพทย์อย่างถูกต้องมายืนยันและไม่ยอมส่งแพทย์มาตรวจว่าท่านป่วยจริงหรือไม่ กลับยืนกรานให้ท่านไปพบที่สำนักงาน DSI ให้ได้ ทั้ง ๆ ที่กฎหมายก็เปิดช่องให้ DSI นำข้อกล่าวหาไปให้หลวงพ่อรับทราบที่ไหนก็ได้

     เมื่อ DSI เห็นว่าหลวงพ่อไปรับทราบข้อกล่าวหาที่สำนักงาน DSI ไม่ได้ เจ้าหน้าที่ DSI ก็ไปขอให้ศาลออกหมายจับหลวงพ่อทันทีโดยใช้เวลาไม่ถึง ๒ เดือนหลังการออกหมายเรียกครั้งแรก ซึ่งถือเป็นเวลาที่รวดเร็วมาก

     และเนื่องจากคดีนี้มีรายละเอียดหลายประการ จึงทำให้ประชาชนที่ไม่ได้ติดตามทุกขั้นตอนเกิดความสับสนและอาจเข้าใจผิดได้ในขณะที่คณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายมีความสนใจคดีนี้เป็นอย่างมาก จึงติดตามรายละเอียดทุกขั้นตอน ทำให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนที่สรุปได้ว่า หลวงพ่อเป็นผู้บริสุทธิ์


การพิสูจน์ด้วยตนเอง

     หลวงพ่อธัมมชโยสอนธรรมปฏิบัติมาเป็นระยะเวลาประมาณ ๕๐ ปี จึงมีศิษยานุศิษย์จำนวนมากที่รู้จักท่านมาเป็นเวลายาวนาน ซึ่งบุคคลเหล่านี้ต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าหลวงพ่อเป็นพระภิกษุผู้มีความบริสุทธิ์ ทั้งคำพูดและการกระทำของท่านไม่มีอะไรด่างพร้อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งพระภิกษุที่จำพรรษาอยู่ที่วัดพระธรรมกายมาเป็นเวลานาน จะยิ่งเห็นคุณธรรมความดีงามของท่านจากการได้อยู่ร่วมกัน ดังพุทธพจน์ที่ว่า “ศีลพึงรู้ได้ด้วยการอยู่ร่วมกัน”

     อย่างไรก็ตาม อาจมีคนคัดค้านว่า ในฐานะศิษย์ก็ต้องเคารพเทิดทูนครูบาอาจารย์เป็นธรรมดา เกี่ยวกับเรื่องนี้ผู้เขียนเห็นว่ายังมีบางสิ่งบางอย่างที่คนนอกวัดพระธรรมกายไม่เข้าใจ เพราะเขาเหล่านั้นไม่เคยรู้จักหลวงพ่อธัมมชโย ความรู้สึกที่พวกเขามีต่อหลวงพ่อจึงไม่ใช่สิ่งที่เขาประสบด้วยตนเอง แต่รับข้อมูลมาจากสื่อมวลชนบ้าง ฟังเขาเล่าต่อ ๆ กันมาบ้าง ในขณะที่คณะศิษย์วัดพระธรรมกายล้วนมีประสบการณ์ตรง คือ เห็นทั้งสิ่งที่ท่านสอนและทำด้วยตัวของพวกเขาเอง ซึ่งล้วนแต่เป็นสิ่งที่ดีงาม ทุกคนจึงมีความเคารพรักหลวงพ่อมาก

ที่สำคัญ ตลอดเวลาที่ผ่านมาหลวงพ่อไม่เคยสอนสิ่งที่ไม่ดีเลย มีแต่สอนให้ละชั่วทำดี ทำใจให้ผ่องใส ให้บำเพ็ญบุญกิริยาวัตถุ ๓ ประการ คือ ทาน ศีล ภาวนา และสอนให้รักพระพุทธศาสนา ให้กตัญญู ให้อดทน ฯลฯโดยท่านปฏิบัติตนเป็นต้นแบบเสมอมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการอดทนทำความดีแบบเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ดังที่ท่านปฏิบัติให้เห็นตลอดมา แม้สุขภาพท่านไม่แข็งแรงมาเป็นเวลากว่าสิบปีแล้วก็ตาม 

นอกจากนี้ การที่ได้ไปวัดทุกวันอาทิตย์และได้ฟังเทศน์จากหลวงพ่อทาง DMC ทุกวันตลอดมาเป็นเวลายาวนาน ทำให้ทุกคนได้รับรู้ทัศนคติในด้านต่าง ๆ ของหลวงพ่อ ซึ่งล้วนแต่แสดงให้เห็นว่า ท่านมีจิตใจที่บริสุทธิ์งดงามเพียงใด สิ่งที่ท่านเทศน์สอนบ่งบอกให้เห็นคุณธรรมที่อยู่ในใจของท่าน อาทิ การยึดหลักโอวาทปาฏิโมกข์อย่างเคร่งครัด และยังสอนให้ศิษย์ปฏิบัติตาม โดยไม่ให้ว่าร้ายหรือไปทำร้ายใคร ยิ่งในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน จะยิ่งเห็นว่าใจท่านมีแต่ความสงบและเปี่ยมไปด้วย ความเมตตากรุณาต่อสรรพชีวิต






    ส่วนผลงานของท่านแต่ละโครงการ ก็ล้วนเป็นไปเพื่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและฟื้นฟูศีลธรรมโลก ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อมหาชนสังคม ประเทศชาติ และพระศาสนาทั้งสิ้น เช่น โครงการบวชพระแสนรูป โครงการอบรมศีลธรรมเด็กผ่านนิทรรศการ V-Star โครงการตักบาตรพระทั่วไทย โครงการถวายสังฆทานแด่พระภิกษุ ๓๒๓ วัด ใน ๔ จังหวัดภาคใต้ โครงการสอบตอบปัญหาธรรมะทางก้าวหน้า ฯลฯ



ทั้งคุณธรรมความดีงามและผลงานของท่าน คือสิ่งที่คณะศิษย์วัดพระธรรมกายพบเห็นมาตลอด และเมื่อผ่านการพิสูจน์มาเป็นเวลาที่ยาวนาน ความเคารพรักที่มีต่อหลวงพ่อจึงทวีปริมาณมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทุกคนจะเชื่อมั่นว่าท่านบริสุทธิ์

    อย่างไรก็ตามนอกจากศิษย์ของท่านแลว้ยังมีผู้คนอีกมากมายจากนานาประเทศที่ให้ความเคารพหลวงพ่อธัมมชโย เห็นคุณงามความดีและคุณค่าในผลงานของท่าน ดังจะเห็นได้จากเมื่อวันคุ้มครองโลก ๒๒ เมษายน ๒๕๕๙มีองค์กรต่าง ๆ จาก ๔๐ ประเทศ รวม ๙๗ องค์กร นำปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์โล่รางวัลและใบประกาศเกียรติคุณมาถวายท่านเป็นจำนวน ๙๗ รางวัล ในฐานะบุคคลสำคัญที่มุ่งมั่นจะสร้างสันติสุขแก่โลกใบนี้